ผู้รับใช้กับผู้ร่วมงานแตกต่างแต่ไม่แตกแยก


ผู้รับใช้กับผู้ร่วมงานแตกต่างแต่ไม่แตกแยก
เอ็กโซโด 12
ในสมัยโมเซ   นางมิระยามพี่สาวและอาโรนพี่ชายของโมเซ  ได้กล่าวว่าร้ายกับโมเซ ด้วยความอิจฉา  และเป็นสาเหตุทำให้ต้องมีการถกเถียงกัน  

คำนำ   ก.การทำงานร่วมกันหลายคน   อาจมีข้อโต้เถียงกันบ้าง
                        -โดยทั่วไป  คนที่ทำงาน มีคนชอบก็ต้องไม่มีคนชอบเป็นเรื่องปกติ
                        แต่คริสเตียนไม่ควรเป็นเช่นนั้น   เราควรดูเหตุและผลว่าควรทำงานอย่างไรไม่มีข้อ
                        โต้แย้ง
            ข.เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่า  การกระทำของมาร  เก่งมากที่ทำให้คนเราหันหลังให้กันได้
                        เช่น   สามีภรรยา  ถ้ามีการถกเถียงกัน  ก็นอนหันหลังให้กัน  หรือท่านไม่เคย
                        -สามีคู่หนึ่งทะเลาะกัน  และโกรธกันมาก  ก่อนเข้านอน ฝ่ายสามีได้บอกภรรยาว่า 
                        พรุ่งนี้ 7  โมงผมมีนัดอย่าลืมปลุกผมด้วย
                        พอรุ่งเช้า  สามีสดุ้งตื่นลุกขึ้นมาดูนาฬิกา ตายแล้ว  8 โมงเช้า ตะโกนถามภรรยาว่า
                        ทำไมไม่ปลุกผม   ไม่มีเสียงตอบ  พอดีเหลือบไปเห็นกระดาษ 1  แผ่นบนเตียงเขียน
                        ว่า  7 โมงเช้าแล้วไอ้หมูตอน      ปลุกจริงๆ  เพราะการเถียงกันเมื่อคืนเลยผิดนัด
            ค.การทำงานอะไรก็ตามถ้ามีพระเจ้าอยู่ด้วย  ต้องใช้พระคัมภีร์ร่วมเสมอ
                        -เป็นเรื่องยากที่จะไม่เถียงกันเรื่องงาน
                        -อย่างเราจะทำอะไรสักอย่างเราก็ต้องคุยกันที่ห้องประชุม  ให้ตกลงกัน
                        -คนยิ่งมาก  ปัญหาก็มากตามเป็นเรื่องปกติ   คนน้อยๆ  จะได้ไม่มีปัญหามาก
            เราควรทำความเข้าใจเรื่องการทำงานร่วมกันให้มากขึ้นเพื่อรับปัญหาต่างๆ

1.บุคคลที่มีปัญหาในการทำงานร่วมกัน ในพระคัมภีร์
            1)กษัตริย์  ซาอูล  มีลูกเขยที่ไม่ชอบอย่างดาวิด   แต่ต้องทำงานร่วมกัน  มารมากระซิบข้างหูว่า
ซาอูลฆ่าคนนับตั้งพัน  ดาวิดฆ่าคนนับตั้งหมื่น  ใครเก่งกว่าซาอูล   ทนไม่ได้ เป็นข้าราชการที่เก่งกล้าเป็นลูกเขยก็ช่างลูกเขย   แถมต้องทำงานด้วยกัน เห็นหน้าในราชวังทุกวัน  ก็พุ่งหอกหวังให้ต่อฝาผนังวัง  เอาให้ตาย   ด้วยความอิจฉา
            2)เปโตรถามพระเยซูว่า  อนาคตของโยฮันจะเป็นอย่างไร พระองค์ตอบอย่างตำหนิ และตอบว่า
        ถ้าเราอยากให้เขาอยู่จนเราเสด็จมาจะเป็นเรื่องอะไรของเจ้าเล่า?)


3)เปาโลกับบาระนาบาเดินทางไปประกาศด้วยกัน ก็มีการขัดแย้งกันต้องแยกกันไปประกาศด้วยเรื่องของโยฮ้น   กิจการ 15: 36-41
        -เปาโลกับบาระนาบา  มีความคิดต่างกันเกิดการเถียงกัน  การเถียงกันเป็นเรื่องปกติ   แต่อย่าทะเลาะกันจนมองหน้าไม่ติด
        -แต่ก่อนผมก็ทำงานกับหลายคน  การสอนไม่เหมือนกัน ก็สอนด้วยกันลำบาก
            ไม่ได้เป็นการทำผิดบาป  แต่การคิดงานทำด้วยกันก็ต้องเหมือนกัน  
            3)ยาโคบกับพ่อตา (ลุงลาบานพี่สาวของแม่)  เป็นเจ้าของกิจการฟราม์แกะ,แพะ ก็ว่าได้ แต่ขัด
                        แย้งกันเรื่องผลประโยชน์  รายได้รายจ่าย  ด้วยพระเจ้าอวยพรยาโคบมากมาย แต่พ่อตาไม่
                        ยอมแบ่ง  เกิดการแย่งชิง 
                        -คนสมัยนี้ก็ยังเป็น  แย่งเก้าอี้ ชิงตำแหน่งใหญ่โต  ผลประโยชน์

2.เราจะมีทางแก้ไขได้อย่างไรเรื่องการทำงานขัดแย้ง
            1)อย่าใช้คำว่า  ฉ้น  ถ้าเราบอกว่า  ฉันเป็นคนทำ  ฉันเป็นคนคิด  ฉันได้เริ่มงานเอง  ฉันๆๆๆ
            ให้เปลี่ยนเป็น  เรา  เพราะการทำงานคนเดียวสำเร็จยาก  บางทีไม่สำเร็จด้วยซ้ำ
-ดู กิจการ 3 บทที่  7  บท12  และบท  16  เมื่อเปโตรรักษาคนพิการให้เดินได้  ในวันเพ็นเตคอส มีคนกลับใจ 5,000  คน   มีคนแปลกใจที่ท่านทำได้  แต่เปโตรจะตอบทุกครั้งว่าในนามของพระเยซูคริสต์  ไม่ได้บอกว่าในนามของเปโตร
            2)เมื่อผู้ร่วมงานท้อใจ ต้องเห็นใจและให้กำลังใจเขา
                        -ในมัดธายบทที่ 11   โยฮันบัพติศโตส่งคนไปถามพระเยซูอย่างน้อยใจว่า  ท่านเป็นผู้ที่จะมานั้นหรือ หรือต้องรอคอยผู้อื่น  พระองค์ได้ตอบโยฮันเมื่อสาวกของโยฮันออกไปแล้วจะได้ไม่เป็น
            การฉีกหน้าโยฮัน  ว่า  ท่านทั้งหลายได้ออกไปดูอะไร มิใช่เพื่อดูต้นอ้อไหวโดยถูกลมพัด
            ถาม  คุณเคยดูต้นข้าวมันพัดลู่ลมเป็นแนวเดียวกันไหม  เป็นภาพที่น่าดู
                        คำตอบของพระองค์อีกว่า  ดูคนนุ่งห่มผ้าเนื้ออ่อนนิ่มหรือ  โยฮันนี้แหละที่พระคัมภีร์ได้
กล่าวถึงว่า  เราใช้ทูตของเราไปข้างหน้าท่าน  ในบรรดาคนที่บังเกิดจากผู้หญิงมานั้นไม่มีผู้ใดใหญ่กว่าโยฮัน   หมายความว่า  การที่พระองค์มานี้  ไม่ได้เพราะเป็นมาจากพระองค์ผู้เดียว แต่เป็น
เพราะพระเจ้าทรงส่งโยฮันมาทำทางให้ก่อนพระองค์จะมา 
            เป็นคำตอบที่โยฮันพอใจ
-ท่าทีและจิตใจที่กว้างขวางก็สำคัญเพราะเป็นเหตุให้งานประสบผลสำเร็จ
            เมื่อพระนางวิคตอเรียของอังกฤษจัดงานเลี้ยงใหญ่โตเพื่อต้อนรับแขกเมืองคนสำคัญ
            พนักงานคนหนึ่งทำน้ำแกงหกเลอะชุดราตรีของพระนาง    พนักงานคนนั้นตกใจมากกลัว

จนตัวสั่น  แต่พระนางได้กล่าวกับแขกผู้มีเกียรติด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเห็นใจว่า พนัก
งานคนนี้เป็นคนซื่อสัตย์  แต่วันนี้อาจตื่นเต้นเกินไปเพราะเห็นท่านทั้งหลายมาร่วมงานฉลองนี้  จากนั้นก็หันไปสนทนากับแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
            ถ้าเป็นเราจะทำอย่างไรเมื่อพนักงานของท่านทำเช่นนี้    บางคนอาจด่าทอ  ไล่ออกไปเลย
            หรือไม่ก็บรรยากาศเสีย   พนักงานไม่อยากทำงาน  หรือตำหนิต่อหน้าให้เสียหาย ให้ท้อใจ
3)ขอให้พระเจ้าช่วยในชื่นชมคนอื่นแทนที่จะพยายามหาจุดอ่อนมาโจมตี
-ให้เราดู สุภาษิต 17: 9  ผู้ที่ปกปิดความผิดของคนอื่นไว้เป็นผู้บำรุงความรัก แต่ผู้ที่พูดซ้ำซากเรื่องความผิดของคนอื่นก็ทำลายมิตาสนิทให้แตกแยกกัน
-    พระเยซูชื่นชมนะธันเอลว่าเป็นคนอิสราเอลที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม  ไม่ใส่ใจคนอื่นที่พูดไม่
สุภาพใส่ท่าน
-บางทีคนพูดไม่ดีต่อเรา  เราก็อดไม่ได้  รีบสวนทันควัน   ตอบโต้ด้วยวาจาน่าอายก็มี   
-บางทีการที่เราไม่ยอมร่วมกับคริสตจักรอื่นก็อาจทำให้คนมองเป็นเรื่องแปลก  ก็ปล่อยไป
แต่ก็ไม่อยากไปโจมตีคริสตจักรอื่น   เขาอาจมีข้อดีกว่าเรา  เช่น  เขาสอนอย่างไรทำให้
คริสตจักรของเขาพัฒนาขึ้น  คนมากขึ้น   เขาพูดอะไร  เราต้องชื่นชมคนอื่นบ้างเมื่อเขาทำ
ดีกว่าที่เราคิด
-ความจริงอีกอย่างคือ ไม่มีการแยกระหว่างผู้เชื่อถูกหรือผิด  เพราะต่างก็ทำหน้าที่เหมือนกัน            คริสเตียนเหมือนกัน  แต่ต่างตรงที่ความเชื่อต่างกัน  เป็นหน้าที่ของพระเจ้า
ที่จะตัดสิน  เรากำหนดไม่ได้
-ควรหาคำชื่นชมผู้ที่ทำงาน โดยการให้กำลังใจ  ขอบคุณ  ให้การ์ดเล็ก  ให้ความสำคัญคน
ทำงาน  เพราะถ้าไม่มีผู้ร่วมงาน  งานก็ไม่สำเร็จ
        4)พระบัญญัติผ่านโมเซ  แต่พระคุณและความจริงผ่านทางพระคริสต์
                        -แน่นอน  ต่างฝ่าย  ต่างเป็นผู้ร่วมงาน  มาคนละครั้ง  แต่จุดประสงค์เหมือนกันทำด้วยกัน
                        คนละเวลา

3.ทำร่วมกัน อย่าทิ้งกัน  ร่วมทุกข์ร่วมสุขแล้วเดินด้วยกัน
            1)สร้างบรรยากาศ   กิจกรรมต้องการคน  ถ้าขาดคน บรรยากาศก็กร่อย 
            2)ประสานรอยร้าว  โดยให้พระคริสต์เป็นผู้ประสานรอยร้าว   มองข้ามปัญหาเสียบ้าง  อย่าใช้
            อารมณ์  มาตัดสินปัญหา
3)ยึดหลักคำสอนด้วยกัน  สอนเหมือนกัน  แม้ว่าเปโตรจะถูกเปาโลต่อว่า เนื่องจากกลัวพวกเข้าสุนัดเลยเยกตัวออกไป จากพี่น้องในอันติโอเกีย  แต่ขอให้เราสังเกตว่ายข้อความ
2 เปโตร 3;15 เปาโลน้องที่รัก  เขาใช้คำที่น่าฟัง ในเวลาเดียวกันย้ำเตือนว่าอย่าบิดเบือนคำสอนวจะของเปาโลประกอบด้วยปัญญา 
            และเมื่อเปาโลกล่าวใน 2 ติโมเธียว 4ซ11 เรื่องการตามาระโกนั้น เนื่องเพราะมาระโกเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่องานประกาศแสดงว่า รอยร้าวระหว่างเขานั้นไม่ใช่แค่รักษาแต่เป็นเพื่อนร่วมงานที่รัก
            4)รักพระเจ้าไม่มุ่งหาประโยชน์ส่วนตัว  แล้วจับมือกันเดินด้วยกัน
            5)อธิษฐานเผื่อผู้ร่วมงานให้มากๆ   เพราะไม่รู้ว่าจะมีอะไรบ้างที่ไม่ตรงกัน   ที่สำคัญเราไม่ได้ทำงานร่วมกันแค่ 2  คน  เราทำงานร่วมกันกับพระคริสต์

สรุป     ก.งานมีให้ทำ  แต่คนทำงานหายาก  เพราะการทำงานร่วมกันเป็นเรื่องยาก
            -ให้เราดูการทำงานของโมเซ  ตอนแรกทำคนเดียว  แต่พอได้ นายร้อย  นายพัน  นายสิบ นายห้า
            สิบ  ทุกอย่างก็เปลี่ยน  โมเซมีเวลาเข้าเฝ้าพระเจ้ามากกขึ้น  เหนื่อยน้อยลง
            -เคยได้ยินไหม  ปัญหามีไว้ให้แก้ไขอย่าหนีปัญหาให้คนหนึ่งคนใดแก้ไข
            ข.ทำทุกอย่างโดยมีพระเจ้ากับพระคริสตเป็นองค์ประทาน  เราทำบริษัทพระเยซูคริสต์  คนยิ่งมาก
            ปัญหายิ่งมาก
            ค.เมื่อเริ่ม 0  อย่าให้จบที่ 0   จงต่อให้เป็นมากกว่าและยิ่งกว่า
                        -วันนี้มีหลายอย่างให้ทำร่วมกัน  ไม่ใช่ทำคนเดียว  นักเทศน์คนเดียว   ผู้นำคนเดียว  สตรีคนเดียว  อนุชนคนเดียว  เด็กคนเดียว  
            ต้องทำร่วมกัน    แตกต่างความคิด  แต่อย่าแตกแยก  เพราะเราทำร่วมกัน ไม่ใช่ฉันทำ