พระดำรัสของพระองค์อยู่ที่ลิ้นของข้าพเจ้า


พระดำรัสของพระองค์อยู่ที่ลิ้นของข้าพเจ้า
                                                           
ได้ทรงกล่าวว่าพระวิญญาณของพระยะโฮวาทรงตรัสแก่ข้าพเจ้า  และพระดำรัสของพระองค์อยู่ที่ลิ้นของข้าพเจ้า  2 ซามูเอล 23:2
คำนำ    ก.ทำความเข้าใจเรื่องบทสุภาษิตสมัยโบราณ
                        -ในข้อที่ 1  กล่าวให้รู้ว่า ข้อความเหล่านี้เป็นถ้อยคำของกษัตริย์ดาวิด ลูกหลานของยาโคบ
                และถ้อยคำเหล่านี้ก็บริสุทธิ์เพราะมาจากพระเจ้า
                        -คนในสมัยนั้นเชื่อฟังคำสอนของดาวิด และดาวิดเป็นตัวอย่างที่ถ่อมใจแม้ว่าท่านจะทำผิด
                        ต่อพระเจ้า  ท่านก็กลับใจเสมอ   กลับใจแบบถ่อมใจจริงๆ    ในสุภาษิตพบว่าการใช้ลิ้น
                        มี 145  ครั้ง   ต้องลองไปเอาปากกาขีดดู
                        -บั้นปลายชีวิตของดาวิด  มิได้กระทำผิดต่อพระเจ้า   เราเองก็เหมือนกัน  บั้นปลายชีวิตของ
                        เราจะเป็นอย่างไร  หรืออาจจะอยู่ไม่ถึงแก่เฒ่าเหมือนดาวิดก็ได้ 
-คำสอนสมัยก่อนเป็นคำสอนที่ดี   ถ้าเกี่ยวกับปาก  เกี่ยวกับคำพูด  เช่น   ปากเป็นเอก  เลขเป็นโท   ปลาหมอตายเพราะปาก   พูดดีเป็นสีแก่ปาก  คนต่อให้อีกว่า พูดมากปากจะเป็นสี
            ข.พระเจ้าทรงให้เรารู้แม้ข้อความนั้นลับลึก     1 โกรินโธ 2:10-13
                        -ถ้อยคำเหล่านี้เป็นมาจากพระเจ้าที่โปรดประทานให้   ซึ่งไม่มีใครอาจรู้ได้
                        -มิใช่คำสอนจากคนชาวโลก  ปัญญาของมนุษย์     เพราะในโลกนี้  มีการสอนไม่รู้จบ
                        -หลักสูตรก็ยากขึ้น  บางทีเรียนมาก็ไม่ได้ใช้  เช่น เรียนเลข  ใช้สมอง แต่พอออกมาทำงาน
                        ใช้แต่เครื่องคิดเลขใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่
        ค.คำของมนุษย์กับพระเจ้าต่างกัน
                        -พระคำสะอาดและบริสุทธิ์  ไม่มีอะไรแอบแฝง  ไม่เหมือนคำของคน  ยากที่จะเข้าใจได้
                พระเยซูตรัสว่า ชาวแผ่นดินสวรรค์ควรเป็นเหมือนเด็กเล็กๆที่บริสุทธิ์   มัดธาย  19:14
                        เด็กเล็กๆ  ไม่โกหก  ยกเว้นเด็กที่ได้รับการสอนมา
            เรื่องเล่า    มีชายคนหนึ่ง   ชอบไปเป็นหนี้เป็นสินทั่วบ้าน  วันหนึ่งเจ้าหนี้ได้มาเรียกที่หน้าบ้าน
            เขาไม่มีเงินจ่าย  จึงบอกลูกสาววัย 5 ขวบว่า   ลูกนิด ไปบอกเขาสิว่าพ่อไม่อยู่  หนูนิดก็เดิน
            ออกไปหน้าบ้านแล้วพูดว่า คุณลุงขา  คูณพ่อให้มาบอกว่า  คุณพ่อไม่อยู่ค่ะ 
            เด็กซื่อบริสุทธิ์   ไม่เข้าใจเรื่องการใช้ลิ้น 


บางทีเราอาจไม่มีเจตนาในการทำชั่ว  แต่ทำไงได้มันเลี่ยงไม่ได้      โรม  7:18-20  ด้วยว่าในตัวข้าพเจ้า คือในเนื้อหนังของข้าพเจ้าไม่ความดีประการใดเลย เพราะว่าเจตนาดีของข้าพเจ้าก็มีอยู่  แต่ซึ่งจะกระทำการดีนั้นข้าพเจ้าหาได้กระทำไม่   ด้วยว่าการดีนั้น ซึ่งข้าพเจ้าปรารถนาทำข้าพเจ้าไม่ได้กระทำ  แต่การชั่วซึ่งข้าพเจ้ามิได้ปรารถนาทำข้าพเจ้าก็ยังทำอยู่  ถ้าแม้ข้าพเจ้ายังทำสิ่งซึ่งข้าพเจ้าไม่ปรารถนาทำ ก็มิใช่ข้าพเจ้าเป็นผู้กระทำแต่ความผิดซึ่งอยู่ในตัวข้าพเจ้าเป็นผู้กระทำ

1.พระเจ้าให้เราใช้ลิ้นในเพื่อพระเจ้ามิใช่ในทางที่ผิด
            1)ใช้ในการประกาศพระคำของพระองค์
                        -มาระโก 16:15-16   ประกาศ
                        ถ้าไม่ประกาศจะพินาศ
-ในเอ็กโซโด บทที่ 3:11 เป็นต้นไป โมเซไม่กล้าที่จะประกาศให้ชนชาติยิวออกมาจากการเป็นทาส  ต่อรองกับพระเจ้าบนภูเขาซีนาย   ในบทที่ 4 โมเซอิดเอื้อนไม่กล้าพูด ดูข้อที่ 10   พระเจ้าให้อาโรน มาช่วย  เพราะทำงานสอนศาสนาและช่างพูด ในข้อที่ 14-15
            2)ใช้ในคำตรง   จริงก็ว่าจริง  ไม่ก็ว่าไม่   มัดธาย  5:37
-คำของ ยิระมายา  มายังบรรดาพวกอิศราเอล  ให้กลับมายังพระเจ้า  เตือนเรื่องการที่จะต้องถูกกวาดต้อนไปยังเมืองอื่นและต้องเป็นเชลย   เขาไม่เชื่อ ยิระมายา หาว่าเป็นบ้าไป   อย่างเราถ้าประกาศว่า  พระเยซูจะเสด็จมา  ให้คนกลับใจ   ประกาศก็ยาก คนไม่เชื่อ ยังไงก็ไม่เชื่อ  แต่แค่ภาพยนตร์  20012  วันสิ้นโลก เชื่อกันเป็นเรื่องเป็นราว
        เชื่อหรือว่าคนจะรอดที่ประเทศจีน  ทั้งที่จีนต่อต้านพระเจ้า   ห้ามการเรียนการสอนเรื่องศาสนาคริสต์   จีนประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจมากมาย   
            3)ใช้ลิ้นในการนมัสการพระเจ้า
                        -การร้องเพลง  การอธิษฐาน   การสรรเสริญยอย่องพระนามของพระองค์  ยาโกโบ 3:9
                        ปากที่ด่าคน   ก็เป็นปากเดียวกันที่สรรเสริญพระเจ้า  อย่าให้เป็นเช่นนั้น  ก่อนจะพูด ควร
                        ดัดลิ้นของเราให้อ่อนสุภาพ    บางวันผมกับภรรยาเถียงกันเสียงดัง  พงษ์กับแพรววิ่งมาดู
                        แล้วว่าป้ากับลุงทะเลาะกัน  เราเลยว่าไม่ได้ทะเลาะ  เถียงกันเสียงดังไปหน่อย
            4)ใช้ลิ้นในการกล่าวคำหนุนใจ
                        -ในปีใหม่นี้  ไม่มีการ์ดก็กล่าวคำอวยพรคนอื่น  ผมจำได้ว่า  ปีใหม่ จะได้บัตรอวยพรจาก
คุณสุจิตรา  นอกนั้นไม่มีใครให้  และปีที่แล้วได้รับจากน้องเบส  เราต้องฝึกในการให้คำอวยพร  เราอยากได้พร  แต่ไม่คิดจะอวยพรให้ใคร  เราต้องหัดเรียนรู้เรื่องนี้ด้วย
-เรียนรู้จักในการดัดลิ้นของเราให้อ่อนหวานและจริงใจ  สุภาพอ่อนโยน
2.รู้จักบังคับลิ้นของเราเอง   ยาโกโบ   3;6-9
                    เคยได้ยินไหม?   คิดก่อนพูดไม่ใช่พูดก่อนคิด     ลิ้นปลิ้นปล้อนกลิ้งกลอกไปมา    
            1)ลิ้นคืออะไร?   ท่านยาโกโบได้บอกลักษณะคือ   
                        -คืออวัยวะเล็กๆในปาก       ลิ้นเป็นไฟ     เป็นโลกแห่งความชั่ว       เป็นเชื้อไฟวัฏฏ์
                        แห่งชีวิต     มันติดไฟมาจากนรกเป็นสิ่งอันชั่วมาจากนรก
                        -ลิ้นสามารถทำให้เราเสียหายได้  ทำให้เราได้รับเกียรติยศได้   ลิ้นทำให้เราเป็นคนดีได้
                        สารมารถทำให้เราแย่ที่สุดได้   และลิ้นก็ยังทำให้เรามีศัตรูและคนรักได้
            2)ลิ้นควรอยู่ใต้อำนาจของสมองและจิตใจ 
-อย่าให้คำพูดของเราไปบาดใจใคร   คนตายเพราะลิ้น  สุภาษิต 18: 21  ความตายและชีวิตอยู่ในอำนาจลิ้น ผู้ที่รักใช้ลิ้นจะได้กินผลแห่งลิ้นนั้น 
            คนบางคนถนัดในการพูดเหน็บแนมให้เขาเจ็บช้ำ  ไม่ถะนุถนอมจิตใจ บางครั้งก็
            พูดว่า  ไปตายซะ    สุภาษิต 25: 2 ลมเหนือพาฝนมาฉันใด ลิ้นส่อเสียดก็นำหน้าบูดบึ้งมาฉันนั้น   ต้องใช้ความจริงใจ  เป็นคริสเตียนจะพูดให้เขาเจ็บช้ำไม่ควรทำ
                        -อย่าให้ลิ้นของเราเป็นที่แช่ง   ใครได้ยินก็แช่งด่า  เป็นอันตราย
                        -ลิ้นของซาตานหลอกลวงให้หญิงที่พระเจ้าสร้าง  เจ้าจะไม่ตายจริงๆหลอก  ไม่จริงดอก
                        พระคัมภีร์เยเนซิศ   บทที่  3  กล่าวว่า  งูเป็นสัตว์ฉลาด  ที่จริงแล้ว  เราเป็นมนุษย์น่าจะฉลาดกว่า  เพราะฮาวา และอาดามกินผลไม้ ที่ทำให้ตาสว่าง   เราเป็นมนุษย์ ย่อมจะฉลาด  เราต้องรู้ว่าสิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควรพูด  สุภาษิต 15: 2 ลิ้นของคนที่มีปัญญาย่อมกล่าวความรู้ที่ถูกต้องออกมา แต่ความโฉดเขลาย่อมพลุ่งออกมาจากปากของคนโฉดเสมอ
            -ควรใช้ลิ้นอย่างสุภาพ  สุภาษิต 15:  4   ลิ้นที่สุภาพเป็นดุจต้นไม้แห่งชีวิต และลิ้นที่กะด้างหลงผิดย่อมทำให้จิตต์ใจแตกร้าวไป 
3)อย่าปล่อยให้ลิ้นมีอำนาจนำเราไปในทางผิด
            -การนินทา ก็มาจากลิ้นของเรา  สมองต้องบังคับ
-การใส่ร้ายคนอื่น   ใส่ความคนบริสุทธิ์   ลิ้นที่พูดปด  ในสุภาษิต 6: 17  พระยะโฮวาทรงชัง
            -การใช้วาจาข่มเหง   การขู่กรรโชกทรัพย์
            -การหลอกลวงเพื่อจะได้มาจากคนอื่น   สุภาษิต 15: 15  การที่เพียรอ่อนน้อมวิงวอนนั้นเป็นที่น้าวโน้มน้ำพระทัยของเจ้านาย  และลิ้นที่อ่อนหวานอาจกระทำให้กระดูกแตกได้
มีจ้าวนายก็เลียแข้งเลียขอเอาอกเอาใจ   คริสเตียนไม่ควรทำ  เราต้องบังคับให้ได้
ไม่ใช่ให้เราเป็นทาสของลิ้น
3.ผลของการใช้ลิ้นทั้งผิดและถูก
            -ลิ้นที่มุสา    คำว่ามุสาคือการโกหก   สุภาษิต 26: 28  ลิ้นมุสาย่อมนำหายนะมาสู่ตนและปากป้อยอย่อมทำลายตนเอง
            1)ไม่มีคนคบหากใช้ลิ้นในทางที่ผิด       สุภาษิต 2 : เพื่อให้พ้นจากหญิงชั่ว ให้พ้นจากหญิงงามเมืองที่ใช้คำเล่ห์ลิ้นเกลี้ยงเกลา   ใช้ลิ้นเจ้าเล่ห์  ยังจะคบหาเป็นเพื่อนอีกหรือ?
            2)ลิ้นที่หลอกลวงเขา  ไม่ตายดีแน่นอน
            3)อย่าทำล้ายคู่ครองด้วยการใช้ลิ้นทำลายจิตใจ   แก้วแตกไม่สามารถต่อให้สนิทได้  หลายคู่ชีวิตที่แยกทางเพราะคำพูดให้เจ็บและช้ำ
            4)อย่าทำร้ายลูกของท่านด้วยยั่วยุบุตรให้ขัดเคืองใจ  เขาน้อยใจ  เสียใจปลูกฝังลูกให้ใจร้าว
เขาจะขาดความสุข

สรุป
                        การมีลิ้นไม่ปกติ     ทำให้พูดไม่ชัด    เด็กที่กำลังหัดพูดก็ต้องบังคับลิ้น
            เราเองก็เป็นเหมือนเด็กในพระคริสต์  ต้องระงับลิ้นให้อยู่ในกรอบของพระคริสต์  สังเกตว่าพระเยซูคริสต์  จะพูดเตือนสอนเป็นคำอุปมา  ยกมาเป็นตัวอย่าง   ทุกครั้งที่พูดออกมาจะค่อยๆสอน ไม่เถียงโดยทันที  เช่น ตอนอดอาหาร  40 วัน   มัดธาย 4: 4   ทรงกล่าวว่า  มีคำเขียนไว้ว่า   เราต้องเรียนแบบพระคริสต์   เพื่อจะได้ใช้ให้เป็นตอบคนให้นุ่มนวล  
            อย่าเป็นคนคนที่อยู่คนละฝ่ายกับพระคริสต์  พูดดี เป็นทูตสวรรค์  พูดร้ายเป็นพวกของมาร  วันนี้
ใครที่พูดหยาบคาย  ก็เป็นศิษย์ของมาร
            ลิ้นควรอยู่ในอำนาจของเรา  อย่าให้ลิ้นทำลายเรา  เราต้องฝึกระงับบังคับให้อยู่  มิเช่นนั้นเราอาจตายเพราะลิ้นของเราเองก็ได้
            ลิ้นไม่ดีจะตัดทิ้งเสียก็ไม่ได้  แต่เราต้องระงับ  บังคับ  ดัดลิ้นให้อยู่ในปากอย่าให้ออกมาเรี่ยราดน่าเกลียด   เราเป็นนายเหนือกาย