จงชำระมือและใจ
จากหนังสือยาโกโบ 4:8 “คนบาปทั้งหลายจงชำระมือของตนเสียและคนสองใจจงกระทำใจของตนให้บริสุทธิ์”
คำนำ ก.การล้างมือบ่อยๆเป็นการป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009
-นอกจากกนั้นก็ป้องกันได้หลายโรค ไข้หวัดธรรมดา โรคท้องเสีย โรคติดต่ออย่าง
เพราะการติดเชื้อต่างๆก็มาจากมือไม่สะอาด
-การรับประทานอาหารถ้าไม่ล้างมือ จะหยิบอะไรเข้าปากก็ดูไม่สะอาด ยิ่งคนทำงาน
เช่น ช่างซ่อม ช่างยนต์ ช่างอะไหล่ที่เป็นคราบน้ำมัน ต้องล้างมือให้สะอาดเพราะถ้า
นั่งกินข้าวคนเดียวก็ไม่มีใครรังเกียจ
-การล้างมือเป็นการรักษาความสะอาดที่ดี คิดถึงเวลาที่เราจะกินข้าวแล้วมือไม่สะอาดไปหยิบจับอาหารเข้าปาก ร่างกายก็ได้รับเชื้อโรคทำให้ท้องเสีย
ข.การล้างมืออาจเป็นสัญลักษณ์ อย่างอื่นที่มีความหมายก็ได้
- ความรู้สึกของปีลาต เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยล้างมือเมื่อชำระความพระเยซู
คริสต์ ดู มัดธาย 27:24-25
ค.การรักษาความสะอาดทั่วร่างกายทำให้เราได้ประโยชน์หลายด้าน
-ถ้าเราไปโรงพยาบาลบางที่เรามีสุขภาพดี กลับกลายเป็นว่าเราไปเอาโรคอะไรก็ไม่รู้เข้ามาในร่างกาย แทนที่ไปแล้วจะหายจากโรคภัยไข้เจ็บ
-ที่จริงแล้วโรคมีทุกแห่งเมื่อไรที่ร่างกายของเราอ่อนแอ มันจะเข้ามาอยู่ในกาย ตอนที่โรคไข้หวัดใหญ่2009 เข้ามาใหม่ๆ คนรณรงค์ให้ล้างมือให้สะอาด แต่บางทีเราก็ลืมที่จะล้างเท้าให้สะอาด ที่จริงถ้าเราล้างให้สะอาดทั้งกายเราจะรู้สึกสดชื่นหลังอาบน้ำ
-บางทีเวลาทำงานเหนื่อยมาพอได้ชำระล้างทั้งกายทำให้มีเรี่ยวแรงขึ้นมาได้เยอะ
แต่สิ่งที่ผมอยากจะพูดคือ คนมักจะทำมือให้สกปรก ไม่สะอาด
1.คนบาปจงชำระมือ
ก.หมายถึงคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า
-คนปาบมี 2 รายการ
1)คนที่ไม่เป็นคริสเตียน
-ไม่รู้จักพระเจ้า ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นคนบาป บางคนก็รู้ว่าตัวเองทำบาปก็มี
แต่ไม่มีพระเจ้า ไม่เชื่อเรื่องของพระเจ้า พระเจ้าไม่มี ทำอะไรก็ได้ ที่เป็นการ ผิดบาป
2)คนที่เป็นคริสเตียน มีพระเจ้าแต่ปาก ไม่ประพฤติตาม ผิดพระบัญญัติ ผิดพระประสงค์ของพระเจ้า
เราเป็นคริสเตียนเราไม่สามารถทำให้ชีวิตคริสเตียนเราดีได้ ถ้าเรารับเงินใต้โต๊ะ เรารับเงินที่คิดเกินจากให้พี่น้องยืม เราคตโกงผู้อื่น
-เราไม่ยอมที่จะเสียอะไรเลย มือเราเป็นแบบนี้หรือเปล่า บางทีมือเราชอบที่จะเป็นฝ่ายแบมือที่จะรับอย่างเดียว ไม่ยอมที่จะคว่ำ เพื่อเป็นผู้ให้ เพราะทุกอย่างมาจากใจของเราที่สั่งให้ทำ
2.จงชำระใจของท่าน
- มีแง่คิดต่อไปนี้
1)เราต้องไวต่อบาปด้วยการกำจัดและจัดการกับมันทันทีอย่าปล่อยให้มันทำกิจในตัวเรา 2)ต้องจดจ่ออยู่ความบริสุทธิ์สะอาดอย่างพระเจ้า ทำอย่างพระองค์ต้องสะอาดบริสุทธิ์
ทั้งตัว
3)ยอมรับและสารภาพในความผิดของเราอย่าปล่อยไว้ บางที่เราไม่เคยชำระล้าง
มือและใจของเรา ซึ่งครั้งหนึ่งเราเคยล้างทั้งตัวตอนรับบัพติศมา เราควรกลับมาชำระให้สะอาดอีกครั้งเมื่อเรารู้สึกไม่สบายใจทั้งมือและใจเราไม่สะอาดด้วยประการทั้งปวง.
4)ความรู้สึกต้องเร็ว ต้องคิดให้ได้ว่า เราจะเก็บ และกอดความบาปไว้ทำไม เป็นคริส
เตียนแล้วยังมีความคิดที่ผิดต่อพระเจ้า เราจะเป็นอยู่อย่างนี้ต่อไปหรือ
ในสมัยของคนที่เชื่อพระเจ้าสมัยก่อนในพระคัมภีร์เดิม จะมีการถวายเครื่องบูชาชำระความบาป เราจะได้ยินว่า บาปแพะรับเอาไป บาปเราแท้ๆ เราเอาแพะและแกะมาไถ่โทษบาปของเรา
โยบเป็นอีกคนหนึ่งที่เขาจะถวายเครื่องบูชา และไถ่โทษแทนบุตรของเขาเกรงว่าลูกๆจะทำผิดต่อพระเจ้า
การถวายเครื่องบูชาถ้าจะพูดแต่เดิมก็มีมาตั้งแต่สมัยของคายิน เฮเบล นั่นหมายถึงพระเจ้าเห็นความสำคัญในการที่มนุษย์จะต้องชำระตัว ชำระใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์
3.เหตุผลที่ต้องชำระทั้งตัว
ก.ไม่มีคริสเตียนคนใด จะบริสุทธิ์ 100 %
1)แม่ทัพนามาน เป็นโรคเรื้อน 2พศด 5 ทั้งบท ได้กล่าวถึงนามาน เขาเป็นโรคเรื้อนเพราะ เป็นโรค แต่โรคนี้ก็สามารถติดต่อกันได้ แต่สมัยนี้ไม่มีใครเป็นกันแล้วเพราะทางการแพทย์ก้าวหน้า
2)เปโตรให้คนบาปกลับใจลบล้างความผิดความบาป กิจการ 2 :38อ
3)พระเยซูคริสต์ไม่ได้ทำผิดบาป พระองค์ยังทรงยอมที่จะรับบัพติศมา เพื่อเข้าส่วนใน
การกลับใจใหม่ พระองค์ทรงเป็นตัวอย่างในการบัพติศมา
ข. ไม่มีคริสเตียนคนใดล้างความบาปของตัวได้
-จะด้วยการ บวช ถือศีล กินเจ จะด้วยการทำทานให้ทาน ช่วยเหลือคนทุกข์ยาก ไม่สามารถลบล้างออกได้เลย
ค. มีหลายคนที่เชื่อพระเจ้าที่หลงผิดต่อพระองค์ แต่เขาก็ร้องขอต่อพระเจ้าเพราะเกรงว่าจะถูกพระองค์ทรงลงโทษ
ง. คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ ดูในโรม 12: 3 ด้วยว่าข้าพเจ้าว่าแก่ท่านทั้งหลายทุกคนโดยพระคุณซึ่งทรงประทานแก่ข้าพเจ้าแล้วว่า อย่าคิดถือตัวเกินที่ตนควรจะคิดนั้น แต่จงคิดให้สุขุมสมกับขนาดแห่งความเชื่อซึ่งพระเจ้าทรงโปรดประทานแก่ทุกคน”
เราต้องคิดเองได้ไม่ต้องให้ใครมาเตือนเรา เรากินน้ำนมมานานแล้ว หัดกินอาหารแข็ง ดู
แลตัวเองได้แล้ว เข้มแข็งในพระเจ้าให้มากๆ ไม่ใช่เด็กกันอีกต่อไปที่จะต้องมาพูดกันเรื่องกลับใจ เรื่องสารภาพ เรื่องการชำระล้าง เด็กๆก็ตอบได้ว่าไหนบาป ไหนดี ไหนชั่ว ไม่เชื่อลองถามเด็กดูว่าความบาปคืออะไร
จ. ในสมัยของโมเซ คนที่จะทำหน้าที่ในวิหารของพระเจ้าได้ต้องชำระกาย ใจให้สะอาดก่อนเข้าพลับพลาของพระเจ้าได้
a. เราเองก็เช่นกัน การที่เราจะทำพิธีศีลระลึกของพระคริสต์ ได้เราต้องพินิจดูใจ ดูตัวของเราให้ได้เสียก่อน เราอาจจะมีความทุกข์มากมาย ความโกรธมากมายกับคนอื่น เราก็ต้องปล่อยวางบ้าง เราเกลียดพี่น้องแล้วมาทำพิธีก็ไม่เป็นการถูกต้องเช่นกัน
b. การที่เรามีหน้าที่ในวิหารของพระเจ้าก็เช่นกัน วันอาทิตย์คนที่จะมีหน้าต่างๆก็ต้องชะรำกายใจให้สะอาด
4.หากเราชำระได้ทั้งหมดแล้วเราจะได้อะไรจากการกระทำที่ถูกต้อง
1)เป็นพรแก่ตัวเอง พระพรจะไหลมาเทมา อย่างล้นเหลือ อุดมสมบูรณ์
2)เป็นพรแก่ครอบครัว ไม่ต้องมานั่งหวาดกลัวว่าพระเจ้าจะลงโทษครอบครัวหรือไม่
3)เป็นที่ไว้วางใจต่อพี่น้อง
4)เป็นเกียริยศของคำว่า คริสเตียน สะอาดกายใจ เป็นที่เชิดชูต่อคนที่ได้พบเห็น
5)เป็นกำลังสำคัญของคริสตจักร อนาคต คริสตจักรต้องมีผู้ปกครอง มีมัคคนายก มีเหรัญญิก
มีหน้าที่ ที่ต้องช่วยกัน เราต้องเป็นคริสเตียนดีวันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้
สรุป การชำระมือ และใจ ให้สะอาด ย่อมหมายถึง ทั้งกายด้วย ต้องสะอาดสะอ้าน แต่ที่เน้นเรื่องมือและใจ หมายถึงเป็นการง่าย ที่เราจะชำระ 2 อย่างนี้ก่อน ถ้าทำได้ทั้ง 2 อย่างนี้ก่อน ทุกอย่างก็ง่ายไปเอง
เราต้องชำระให้ได้อย่างนี้ เรามีหรือเปล่าให้นับดู
มือที่ไม่รับสินบน โมเซเลือกคนที่มาทำหน้าที่เหล่านี้ แสดงถึงการสัตย์ซื่อ
มือที่ไม่ขโมยของคนอื่นเขา โดยไม่รับอนุญาต เป็นคนดีมาก
มือที่ไม่รับเงินโกง คิดเกินราคา
มือที่ไม่คิดดอกเบี้ยพี่น้องเมื่อให้เขายืม
และ
ใจที่ไม่คิดคตโกง ไม่คิดร้ายกับคนอื่น ไม่มีใจอิจฉา ไม่มีใจหงุดหงิด ไม่มีใจโลภมาก
เป็นคนใจดี ใจกว้าง ใจสะอาด ใจบริสุทธิ์ ใจโอบเอื้ออารี ใจปราณี ใจร่าเริง ใจเบิกบาน
ใจร้อนรนในการทำการดี ใจซื่อ ใจเดียว ใจเผื่อแผ่ จริงใจ ใจเด็ด
รองนับดูว่าเราทำอะไรได้บ้าง ถ้าเราทำได้ก็ไม่ยากที่เราจะชำระด้วยการให้พระเยซูคริสต์ เป็นผู้ชำระใจเรา วันนี้ ไม่ใช่พรุ่งนี้ และเดี๋ยวนี้ด้วย