คำโกหกสุดฮิตหรือเลี่ยงไม่ได้

คำโกหกสุดฮิตหรือเลี่ยงไม่ได้

                                       

“มีอยู่หกอย่างที่พระยะโฮวาทรงชัง     เออมีถึงเจ็ดอย่างซึ่งพระองค์ทรงสะอิดสะเอียน ตาหยิ่งยะโส ลิ้นพูดปด มือที่ประหารคนที่ไม่มีผิดให้โลหิตตก     ใจที่คิดกะการชั่วร้าย นานา     เท้าที่วิ่งปราดไปกระทำผิด พระยานเท็จทึ่ระบายลมออกมาเป็นคำเท็จและคนที่แพร่การแตกสามัคคีในหมู่พี่น้อง” สุภาษิต 6:16-19

            เราต้องการคำที่ว่า  พูดปด  คำพูดปดเป็นการโกหก  หลอกลวง

คำนำ   ก.การโกหกมีมาตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ทวีมากขึ้น  ในเยเนซิศ 6:5ได้กล่าวว่า    “พระยะโฮวาทรงเห็นมนุษย์กระทำความชั่วมากทวีขึ้นบนแผ่นดินและทรงเห็นว่าความคิดนึกในใจของเขาล้วนเป็นความชั่วเสมอไป”   การคิดนึกทำให้คนทำชั่วได้

1)ตั้งแต่ตอนฮาวากับอาดาม  กินผลไม้ไปแล้วพระเจ้าเสด็จมาเรียก  ก็เกิดอาการกลัวไม่กล้ามาสู้หน้าพระเจ้าหลบซ่อนอยู่ด้วยตัวทำผิด     คนส่วนมากเมื่อสู้ต่อความจริงไม่ได้ก็หลบหน้า  หลบตาไม่สู้     เยเนซิศ   3: 9  เป็นต้นไป

 -ถ้าคุณจับได้ว่าลูกคุณทำผิด  เขาจะไม่กล้าสูหน้า  ไม่กล้าสบตา   เพราะกลัวจับได้  อาย

-สมัยนี้มีเครื่องช่วยในการจับเท็จ  ว่าพูดจริงหรือว่าเท็จ

-มีเครื่องดักจับผู้ร้าย  กล้องวงจรปิด  ,กล้องถ่ายรูป

-บางคนใช้โทรศัพท์ช่วยบันทึกเหตุการณ์เพื่อเป็นหลักฐานทั้งเสียงและภาพ

            ข.คนชอบโกหก หรือไม่ชอบ

                        -มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ จำเป็น   หนีไม่พ้น  เหตุการณ์บีบบังคับ

                        -โกหกเพื่อความสบายใจของอีกฝ่าย  ที่จริงไม่มีใครชอบการโกหก   เป็นความบาป

            ค.ความหมายของการโกหก 

                        -ให้พ้นไปจากตัวเอง

                        -เก็บเป็นความลับ

                        -บิดบังไม่กล้าสู้กับความจริง

            วันนี้เราจะทำความเข้าใจเรื่องคำโกหก ที่กำลังสุดฮิดในขณะนี้

1.คนทั่วไปคิดอย่างไรกับการโกหก ของคนต่อไปนี้

            1)ดารา,นักร้องชื่อดัง  นาธาน  โอมาน  ชื่อเดียวกับนาธาน ที่ไปชื้หน้าด่าดาวิด เมื่อทำผิด

                        โกหกเรื่องไปแสดงต่างประเทศ,เรื่องเชื้อชาติต่างประเทศ,เรื่องไปโกงเงินคนอื่น

ที่มีคนมารุมแจ้งสื่อว่า   นาธานโกงเงินไปนับแสน  โกงเงินเด็กพิการ  

-เมื่อสมัย  6-7  ปีก่อน   มีคนหนี่งชื่อ  สมพงษ์   เลือดทหาร  โทรฯไปโกหกสื่อและตำรวจว่า  ตนเองเก็บเงินได้     โดยใช้วิธีนี้    เขาบอกสื่อว่า  เห็นชายคนหนึ่ง  ชื่อ  สมพงษ์  เลือดทหาร  เขาเก็บเงินหลายล้านบนรถเท็กซี่   แล้วคืนเจ้าของ  เขาอยากสรรเสริญคนดี   เรื่องนี้

ไม่มีคนรู้  ผมก็อยากโทรมาบอกความดีของเขา   เลยกลายเป็นคนดัง  ออกทีวี  ตามหาคนที่เป็นเจ้าของเงินไม่พบ  และเขาประกาศหาคนโทรฯไปก็ไม่มีใครมา  ไปๆมาๆ   สืบรู้ว่า   นายสมพงษ์  เป็นคนโทรฯไปบอกว่าตัวเองเป็นคนเก็บเงินเองได้รับรางวัลมากมาย  ดังสมใจ   ตำรวจและสื่อได้สำรวจและจับได้ว่าเป็นนักโกหกที่ยิ่งใหญ่  ต้องไปนอนในคุก  2  ปี 

            2)คนเฒ่าคนแก่ถูกหลอกต้องเสียเงินนับแสน บางคนถึงล้าน

-ข่าวครึกโครมตอนต้นเดือนพ.ย.นี้  คนแก่ถูกนับต้มตุ๋นหลอกให้ถอนเงินไปซื้อล๊อตเตอรี่ หลอกว่าถูกรางวัลได้เงินเป็นล้าน  ยอมไปถอนเงินกับผู้ร้ายในคราบนายธนาคาร  โดยมี

วิธีมากมาย  คนแก่เชื่อสนิทใจ  ขนาดนายธนาคารหลอกถามตอนถอนเงิน  ตา และ ยาย

ทั้งหลายก็เชื่อคนที่มาหลอก  

            อายุมากแล้วหวังรวยอีก   ต้องระวัง

3)สามีภรรยา  หลอกกันซื่อๆ   จากรายการวิทยุ คลื่น FM 107.75  จัดอันดับความโกหกของสามีภรรยา 

                        ผู้ชายโกหกวันละ 6  ครั้ง   ผู้หญิง  โกหกวันละ  2  ครั้ง    อันนี้เป็นสถิตติของคนชาวโลก

ดู 10  อันดับการโกหกของสามี

                        1-ผมไม่มีเงินติดกระเป๋า             ที่จริง      มีเงินติดอยู่บ้าง  ซุกซ่อน  ซุกหุ้นเก่ง

                        2-ผมสบายดีอยู่ไม่เป็นอะไร     ที่จริง      มีความผิดติดตัวอยู่

                        3-ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ  ยกโทษให้ผมด้วย         ที่จริง    คิดว่า อย่าเผลอเชียว

                        4-คุณยังดูสวยเหมือนเดิม    ที่จริง   คิดว่าเมียชาวบ้านทำไมเขาสวยกว่าเมียเรา

                        5-โทรไปแล้วแกล้งปิดเครื่อง  ว่าติดงาน  ติดประชุม    ที่จริงมีอะไรแอบแฝงอยู่

                        6-โกหกเรื่องผู้หญิง      มีเมียน้อย         มีกิ๊กแน่นอนๆ

                        7-ผมยกให้คุณคนเดียว   ที่จริง      อย่าเผลอเชียวนะ

                        8-เรื่องอาหาร   ไปแอบกินมาแล้วเพื่อให้เธอสบายใจ  บอกว่ายังไม่ได้กิน

                        9-เรื่องเพื่อน   การช่วยเหลือเพื่อน   การคบเพื่อน

                        10-เรื่องงาน  มีปัญหาก็ปิดบัง

                        ต่อไป 6  อันดับของผู้หญิงที่โกหก

                        1-ซื้อของมาแพง  บอกว่าไม่แพง   บอกครึ่งราคา

                        2-ของลดราคา   ซื้อมาแล้วกลัวสามีว่า

                        3-เรื่องเงินกับทางบ้านตัวเอง

                        4-อยู่ระหว่างทาง  กำลังจะไปถึง  รถติดมาก

                        5-ขอโทษจะไม่ทำให้คุณไม่สบายใจอีกแล้ว

                        6-มีใจออกห่าง   นอกใจ

ใน ติโต 2  :1-10  กล่าวถึงทั้งสามีและภรรยาต้องมีคุณสมบัติที่ดีต่อกัน  การไม่จริงใจต่อกันหลอกลวงก็บาปทั้งนั้น

2.แสดงสถานภาพการเป็นคริสเตียนโดยการพูดตรงไป ตรงมา

            1)ไม่โกหก  ต้องกล่าวล้วนแต่คำจริง   ใน  2 โครนิกา  18     กษัตริย์ยะโฮซาฟาดเสด็จไปหากษัตริย์อาฮาบที่กรุงซะมาเรีย   อาฮาบได้ชักชวนยะโฮซาฟาดไปตีเมืองราโมธฆีละอาด   แต่ยะโฮซาฟาดให้ถามคนของพระเจ้าก่อน  อาฮาบกลับเรียกถามคนทำนายของบาละ  400  คน   ผู้ทำนายก็บอกให้ไปตีเมืองได้ ท่านจะได้ชัยชนะ 

                        แต่ยะโฮซาฟาด  ต้องการผู้รับใช้พระเจ้า   อาฮาบบอกในข้อที่ 7   ว่า เราเกลียดผู้นั้นเหตุว่าผู้นั้นไม่เคยทำนายดีๆให้เราเลย  ทำนายบ้วนแต่ชั่วร้ายเสมอ  คนนั้นชื่อมีคา

                        อาฮาบให้คนไปตามมีคา  คนใช้ได้บอกแก่มีคาว่า  ในข้อที่12     “ดูเถิด ผู้ทำนายทั้งปวงทำนายให้กษัตริย์เป็นปากเดียวล้วนแต่คำดี  ขอโปรดให้คำของท่านเป็นเหมือนคำของเขา จงให้คำของท่านเป็นคำดีด้วย”    มีคากล่าวว่าจะกล่าวตามที่พระเจ้าให้พูด

                        กษัตริย์ทรงถามว่ามีคาเอ๋ย   เราควรจะไปตีเมืองราโมธฆีละอาดหรือไม่   มีคาบอกว่าจงไปเถิด   อาฮาบต่อว่าในข้อที่  15  ว่าจะต้องให้ต่อว่ากี่ครั้งเจ้าจึงจะพูดความจริง

                        มีคาจึงยอมพูดความจริง   ในข้อที่   16

“ข้าพเจ้าได้เห็นพวกยิศราเองกระจัดกระจายไปบนภูเขาดุจฝูงแกะไม่มีผู้เลี้ยงแล้วพระยะโฮวาทรงตรัสว่า คนทั้งปวงนี้ไม่มีนายแล้วให้เขาทุกคนกลับไปยังบ้านเรือนของตนโดยสะดวกเถิด”  อาฮาบไม่พอพระทัย โกรธมาก  หาว่ามีคาพูดล้วนแต่เรื่องเสียหายไม่เป็นเรื่องดี 

แล้วมีคายังพูดต่อในข้อ18   ใจความคือว่า พระเจ้าตรัสว่าใครผู้ใดจะไปล่อลวงให้เหล่าผู้ทำนายกล่าวคำเท็จหลอกอาฮาบให้หลง    ปีศาจจึงได้อาสาพระเจ้ามาอยู่ที่ปากของเหล่าผู้ทำนาย

ซิคคียาจึงเข้ามาตบปากมีคา  หาว่ามีคาดูถูกพวกทำนายแห่งบาละ   มีคายืนยันว่า เหตุการณ์ทุกอย่างจะเกิดขึ้นจริง      ต่อมาเหตุการณ์ก็เป็นจริง  เมื่อมีการทำสงคราม  ยะโฮซาฟาดร้องขอ

ต่อพระเจ้าขณะเกิดสงคราม  พระเจ้าทรงช่วยยะโฮซาฟาด   แต่อาฮาบ  ได้ถูกธนูของเหล่าศัตรูแบบไม่จงใจ  สิ้นชีวิตลง     เป็นไปตามคำของมีคา  

คนไม่ชอบให้พูดความจริง   บางทีเขาพูดความจริงก็รับไม่ได้   

            2)ต้องยอมรับความจริงก่อนที่เรื่องจะบานปลาย  

-ยอมสารภาพความจริง  ไม่มีใครเขาเกลียดคนที่ยอมรับความจริง   เปโตรบอกให้กลับใจเสียใหม่

            -บางคนพูดอะไรเกินตัว   ยกตัวเอง

            -บางคนยกย่องคนเกินตัวมากกว่าความจริง

            -คนที่ยอมรับความจริงได้   จะไม่พูดปด  หรือหลอกลวง   พระเจ้าให้เรากล่าวแต่เรื่องจริง

            จริงก็ว่าจริง  เกินนี้ไปก็ล้วนแต่ความชั่ว

ดูเยเนซิศ 37: 29-35  พี่น้องของโยเซฟ  โกหกยาโคบว่า  น้องโยเซฟตายแล้วด้วยเราเห็นเสื้อผ้านี้   พ่อยาโคบ  ร้องไห้สายใจแทบขาด  ที่พี่ๆของโยเซฟเอาเสื้อที่ชุบเลือดมาให้ดู  และว่าลูกชายที่รักได้ตายจากไปแล้ว  แม้ใครจะมาเล้าโลม  ท่านก็ไม่ฟัง

เป็นเพราะพี่ๆของโยเซฟโกหกแล้วจะสารภาพก็ไม่ได้   ต้องเก็บความลับนานกว่า  10  ปี ในเยเนซิศ 45:25 -28  ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี

 สรุป   1)ไม่มีใครชอบการโกหก  และไม่ชอบคนโกหก      แต่ก็ไม่หลีกเลี่ยงใช้คำโกหก  

2)คำว่าโกหกเล็กน้อยไม่บาปหรอก  ผิด  ไม่ว่าจะโกหกให้คนฟังสบายใจหรือโกหกเพื่ออะไรสักอย่างก็ผิด  จึงควรใช้คำที่เหมาะสม

3)เราต้องสำรวจว่าเราโกหกวันละกี่ครั้ง  ต้องเลิกพฤติกรรมการโกหก  เพราะจะไม่มีใครเชื่อคุณ

หมดเครดิต  

            -ประเภทยืมเงินแล้วไม่คืนต้องระวัง   เพราะจะทำให้เราโกหกเจ้าหนี้ได้    แค่เริ่มต้นยืมเงิน

            ก็หาเรื่องมาโกหกแล้ว    พอเจ้าหนี้ทวงเงิน  ก็สรรหามาโกหก  ต้องระวัง

4) มีคนมากมายที่สรรหาคำที่เอาตัวรอด  ต้องระวัง  เพราะเป็นคำไม่ตรง

เป็นเรื่องน่าอายที่พระเจ้าจับคำโกหกของอาดามและฮาวา   “ใครบอกเจ้าว่าเจ้า เปลือยกายอยู่  เจ้ามิได้กินผลไม้ที่เราห้ามไปดอกหรือ”

  เวลาเราพูดคนอื่นจับได้มันน่าอาย     ความจริงใจสำคัญที่สุด

            5)โกหกคนได้  แต่โกหกใจตัวเองและพระเจ้าไม่ได้หรอก  เรารู้แก่ใจเราดี