จงทิ้งขยะทั้งหมดที่ท่านมีอยู่
1เปโตร 2:1 “เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจะสละทิ้งการชั่วร้าย การอุบายต่างๆ การหน้าซื่อใจคด ใจริษยา และคำพูดส่อเสียดเสียให้หมด” สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของขยะ
คำนำ ก.พระคัมภีร์ไม่ได้กล่าวว่าสิ่งเหล่านี้เป็นขยะ แต่เราสามารถรู้ได้ว่านี่คือขยะที่เราควรกำจัดเสีย
เวลาที่ผ่านไปตามถนนมีกองขยะริมทางตามหมู่บ้านและและใกล้หมูบ้าน ขยะที่ไม่ได้ใส่ถังให้เรียบร้อยและบางที่ขยะที่ไม่มีถังขยะให้ใส่ เหตุว่าคนทิ้งไม่ได้ใส่ใจว่าจะทิ้งที่ ที่ควรจะทิ้งหรือไม่ พอหลายวันเข้า กองขยะนั้นก็มากขึ้น เหตุว่าไม่การกำจัดให้ถูกต้อง พอไม่นานกองขยะก็สูงขึ้น ทางกรมทางก็มาเอารถเกตแล้วเขียนป้ายว่า “ห้ามทิ้งขยะ ฝ่าฝืนปรับ2,000 บ. แต่อีกไม่นานเหมือนกัน ก็มีการทิ้งขยะเหมือนเดิม ดูเหมือนเป็นเกมที่ประชาชนกำลังเล่นเกมกับเทศบาล
-เราเป็นคริสเตียนไม่ควรเป็นเช่นคนข้างนอกที่เขาทำ ในบ้านเรามีขยะ ควรจะใส่ถังขยะ
ให้เป็นที่เป็นทาง หรือไม่ก็กำจัดเผาเสียให้เรียบร้อย
-ในบ้านเราก็เหมือนกัน บางอย่างเป็นขยะ เราก็เอาทิ้งเสีย อย่าเก็บไว้ แม่บ้านหลายคนเก็บของอย่างเดียวไม่ค่อยอยากจะทิ้ง กองๆไว้แล้วก็เป็นภูเขา ต้องเอาออกบ้างไม่เช่นนั้นจะเป็นที่อาศัยของ หนู,แมลงสาบ ,ตะขาบ และงู
-บ้านมีขยะก็เหมือนเราเป็นคนสกปรก ไม่สะอาด ต้องรู้จักเก็บกวาด ที่บ้านผมรกไปหน่อย แต่ไม่ได้หมายความว่าสกปรก ทำความสะอาดทุกวัน รกของก็จริงแต่แม่บ้านกวาดถูทุกวัน
ข.ชีวิตคริสเตียนของเราก็ไม่ต่างอะไรกับคนทิ้งขยะ และขยะเหล่านั้นที่ล้นเมือง
- เช่น เราเอาขยะใส่ไว้ในใจเราทุกวันบางคนเอาใส่กายด้วยทั้งกินทั้งดื่ม บางอย่างเป็นขยะที่ไร้สาระอย่าง
1เปโตร 2:1 “เหตุฉะนั้นท่านทั้งหลายจะสละทิ้งการชั่วร้าย การอุบายต่างๆ การหน้าซื่อใจคด ใจริษยา และคำพูดส่อเสียดเสียให้หมด” สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของขยะ
ตอนที่น้ำท่วมใหม่ๆ อะไรต่ออะไรมันก็ลอยมามากมายเป็นขยะที่คนมักง่ายทิ้งลงน้ำทำให้น้ำเน่าเสีย ยิ่งน้ำท่วมนานวันเข้าก็ยิ่งทำให้ดูไม่สะอาดยิ่งขึ้น ยิ่งตามแม่น้ำลำคลองทำให้น้ำเน่าเหม็น แทบทุกที่มีการรณรงค์ให้ทิ้งขยะให้เป็นที่
ที่กรุงเทพฯตามแม่น้ำคูคลอง เห็นเศษขยะเต็มสกปรก ดูไม่น่าอยู่เลย
-เรามีส่วนทำให้เมืองน่าอยู่ ก็ต้องช่วยกัน คริสตจักรก็เหมือนกัน เด็กๆควรทิ้งขยะในถังไม่ใช่ทิ้งเรี่ยราด เวลากินขนมเสร็จบางคนก็น่ารักไม่ทิ้งเศษกระดาษ บางคนก็น่าตีทิ้งไม่เป็นที่
1.เราต้องเริ่มกำจัดขยะในตัวเราก่อน
ก.เริ่มที่ผู้นำครอบครัว
ในคริสตจักรผู้นำต้องเป็นตัวอย่างในการทิ้งขยะในการดำรงชีวิตคริสเตียน
เช่นเดียวกันกับที่ผู้สอนทุกคนรวมทั้งครูบาอาจารย์ ก็เน้นทุกคนให้ทิ้งขยะให้ถูกที่ คริสเตียนรณรงค์ให้ ทิ้งขยะให้ถูกที่ มีหลายองค์กรที่เขารณรงค์ให้มีการคัดแยกขยะ เพื่อเอาไปรีไซค์เคิลให้กลับมาใช้ใหม่แบบใหม่น่าใช้นี่ก็ดี
-ให้เราทิ้งขยะในใจในกายเราให้สะอาด เพราะชีวิตของเราไม่สะอาดบริสุทธิ์ 1 เปโตร 1: 16 “ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเป็นผู้บริสุทธิ์”
ข.คริสเตียนไม่บริสุทธิ์ ไม่สะอาด ก็ไม่ต่างอะไรกับถังขยะ เป็นที่ ที่ทิ้งขยะ
บางทีเราอาจจะนึกไม่ออก ลองนึกถึงเมืองซะโดม เมืองอะโมรา ในสมัยของโลต ยนซ 18:20 ถ้าจะให้เอาความชั่วของเมืองนั้นมาเป็นสิ่งของแล้ววางเป็นกองขยะดูอาจจะมากมายก่ายกองจนพระเจ้าไม่ให้มีการคัดแยกขยะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้เลยก็ได้ หรืออาจจะคิดอีกแง่ ก็มีอยู่ 3 ชิ้น คือโลตและลูกสาวทั้งสองของเขา แต่จะให้สำรวจดีๆ ลูกสาวทั้งสองของโลต ก็ได้รับเชื้อขยะที่เน่าเหม็นมาด้วยเช่นกัน ยนซ 19:31- เป็นต้นไป คนเหล่านั้นที่มาเรียกร้องโลตให้เปิดประตูบ้านเพื่อเขาจะเอาแขกที่มาบ้านโลตไปทำอนาจาร คิดลามกชั่วช้าเลวทรามได้อย่างไรกัน
ค.กำจัดความบาปที่มันยังติดกายเรา
บางทีเราล้างแล้วยังติดมือก็มี แต่ความบาปจะล้างให้สะอาดต้องให้พระเจ้าช่วย เราไม่สามารถทำได้ดีเท่าพระองค์ช่วยเรา
2.การเก็บล้างถังขยะครั้งอันใหญ่หลวง
ให้เราลองนึกเวลาที่เราเอาขยะไปทิ้งแล้วมีกลิ่นเหม็น เราก็เอามาล้างน้ำ บางทีก็เอาน้ำยาล้างให้มันสะอาดมากขึ้น พอล้างแล้วรู้สีกดีน่าใช้ ก่อนล้างเราไม่อยากมองลงไปด้วยซ้ำ เหม็นก็เหม็น บางคนไม่เหม็นเพราะความเคยชินกับการอยู่กับกองขยะ
1)ของพระเจ้า เมื่อคราวน้ำท่วมโลก เราได้ยินแต่ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ ที่ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นมาซ้ำอีกครั้ง
-ดูสึนามิ น่ากลัวมากเมื่อน้ำมาท่วมคนนอนตายมากมาย คนของเราก็ไปเสีย 2 คนในวันนั้น ยังไม่น่ากลัวเท่าตอนสมัยโนฮา ช่วงนั้นมนุษย์อาจไม่มากเหมือนสมัยนี้ ตึกราบ้านช่องก็ไม่มากเหมือนสมัยนี้ ตอนนั้นโนฮาอาจเดินไปประกาศได้ทั่วถึงก็ได้ แต่สมัยนี้เรื่องของพระเจ้าก็ไปได้ทั่วโลกเหมือนกัน คนรู้แล้วก็ไม่กลัวเหมือนกัน ไม่เชื่อว่าพระเจ้าจะล้างด้วยไฟ
2)เมื่อท่านคิดจะชำระขยะในใจในกาย อย่าลืมที่จะทิ้งมันให้หมดและทิ้งให้ถูก
ที่ ในที่ ที่ควรจะทิ้งให้ถูกที่ ไม่ใช่ให้ไปอยู่ในที่ไม่ควรแล้วทำให้เหม็นไปทั่ว จนไม่สามารถ
กำจัดได้ เพราะการทำให้ถูกต้องก็เหมือนกับเราได้ชำระขยะให้หมดไปได้ด้วยการบาป.
3)ขยะบางอย่างต้องกำจัดด้วยเครื่องทันสมัยแล้วเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่บางอย่างต้อง
เผาไฟเสีย บางอย่างต้อง ขุดหลุมฝัง
-ดูขยะอย่างตอนนี้น่ากลัวมาก จะล้นเมืองแล้ว เช่น คอมฯพิวเตอร์ ที่เป็นอันตราย รถที่ชนกันคันแล้วคันเล่า ของใช้ไฟฟ้าบางอย่าง ประเทศที่เขาพัฒนาแล้วเมื่อเสียแล้วเขาจะไม่ซ่อมแต่ประเทศเราจะซื้อเอามาซ่อม อย่างญี่ปุ่น เขาจะทิ้งเลยเพราะการที่เขาซ่อมกับซื้อใหม่ราคาก็พอๆกัน
-บ้านเรารถเยอะมากที่กองๆกันอยู่ อีกหน่อยก็ล้นโลก เป็นขยะเยอะ
3.ขยะในตัวของคริสเตียนมีอะไรบ้าง?
สิ่งที่เราต้องกำจัดออกในตัวเรานั้นมีดังนี้
1)อุบายต่างๆ
-อุบายหมายถึงการล่อลวง ไม่จริงใจ หลอกลวง
ตัวอย่าง สุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งมันพยายามจะกินลูกไก่ตัวเล็กที่แม่มันคอยกกอยู่ คิดอยู่หลาย วิธีว่าจะ ทำอย่างไรดี วันหนึ่ง มันคิดได้ว่า แม่ไก่จะพาลูกๆมาใกล้ลางน้ำที่เจ้าของเตรียมไว้ มันจึงแอบไปขุดหลุมเป็นกับดักไว้ใกล้บ่อน้ำ แล้วเอาใบไม้กลบไว้แล้วแอบซ่อนตัวอยู่พุ่มไม้ พอถึงเวลา แม่ไก่ก็พาลูกเล็กๆมากินน้ำ หมาจิ้งจอกก็โผล่มาจากพุ่มไม้ทำให้แม่ไก่ตกใจมากวิ่งหนีไปแต่ลูกไก่เกิดตกลงไปในหลุมเล็กๆที่หมาจิ้งจอกขุดไว้ มันจึงตะครุบลูกไก่ไปกินเสีย
คนฉลาดแกมโกงอย่างหมาจิ้งจอกก็มีมากมาย หาวิธีทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อจะได้มา
ด้วยกลโกง หรืออะไรก็ได้ เป็นอุบาย ของมารที่เราไม่สามารถรู้ได้ เราต้องระวังมาร
-และเราก็อาจเป็นมารเองก็มี เราต้องกำจัดเสีย
2)หน้าซื่อใจคต
-คนปากอย่างใจอย่าง ต่อหน้าอีกอย่าง ลับหลังอีกอย่างไม่จริงใจ คริสเตียนเราไม่ควรมี
ถือว่าเป็นขยะ เรามีอะไรก็ต้องคุยกันบอกกัน เตือนกัน สอนและเตือนคนที่อายุน้อยกว่า
การมีใจคต ไม่มีใครอยากคบค้าสมาคม เพราะคนแบบนี้ คบได้ไม่นานสักวันก็หักหลัง
-คนจริงใจจะดีกว่า ดูสุภาษิต 27;5 “คำต่อว่ากันต่อหน้าก็ดีกว่าความรักที่ไม่แสดงออกมา
3)ใจอิจฉาริษยา
สุภาษิต 24:19 “ อย่าให้ใจรำคาญเพราะเหตุคนกระทำบาปและอย่าอิจฉาคนชั่ว”
คนเห็นคนอื่นดีกว่าตัวไม่ได้ ไม่อยากให้เขาได้ดี เราเองก็เลยไม่มีความสุข เห็นเขามีรถก็
อยากมีบ้าง เขามีบ้านก็อยากมี เขามีทีวีจอยักษ์ ก็อยากมี การอยากมีไม่บาป แต่มีแล้ว
เป็นหนี้เป็นสิน เป็นความทุกข์ กินไม่ได้นอนไม่หลับ อย่ามี จะดีกว่า ในหลวงบอกให้เรา
รู้จักพอเพียง พระคัมภีร์บอกให้เราพอใจสิ่งที่พระเจ้าให้รู้จักประมาณตนในการกินและ
ดื่ม
-อย่าอิจฉาเขาเลย ขอพระเจ้า ถ้าพระเจ้าให้เรามีสักวันก็มี
-การอิจฉาริษยาก็มีแต่ในละครเท่านั้น ในชีวิตจริงคนเรามัวมาอิจฉาคนอื่น ก็ไม่
มีวันร่ำรวยหรอก ต้องขยันจึงจะมีกินมีใช้
4)คำพูดส่อเสียด
ยาโกโบ บทที่ 3 พูดเรื่องลิ้น คำพูดต้องระวัง ยาโกโบ 3:2 “เพราะว่าเราทั้งหลายย่อมพลาดพลั้งกันหลายๆสิ่งถ้าผู้ใดมิได้พลั้งผิดในวาจา ผู้นั้นก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว อาจบังคับทั้งตัวไว้ได้ด้วย”
สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนี่งของขยะในตัวเราอยู่ที่ว่าเราจะเอาขยะเหล่านี้ออกไปทิ้งหรือเปล่าแต่นั้น
สรุป
คริสเตียนที่แท้จริงไม่ควรมีขยะในตัวเอา ความบาปไม่น่าชื่นชมตรงไหนเลย
1)เหม็น ทำให้คนอื่นรังเกียจ เช่น คนกินเหล้ากลิ่นเหม็น คนสูบบุหรี่ ต่อให้อมอะไรมาเวลาพูดก็มีกลิ่นเหมือนเดิม ถึงคนไม่รู้พระเจ้าก็รู้และเหม็นสำหรับพระองค์
2)การทำบาปเป็นสิ่งที่พระเจ้าสะอิดสะเอียน
3)กายเราทำผิดต่อพระเจ้า ถ้าเราชำระเสียพระองค์จะทำให้ขาวเหมือนหิมะ ยะซายา 1:18-19 “พระยะโฉวาตรัสว่า มาเถิดให้เรามาหารือตกลงกันเสียให้เด็ดขาด แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่ แดงก่ำบาปนั้นก็อาจจะกลับกลายเป็นสีขาวเหมือนอย่างหิมะ แม้บาปของเจ้าจะแดงเป็นเหมือนสีที่แดงเข้ม บาปนั้นก็อาจจะขาวเหมือนอย่างขนแกะ ถ้าเจ้าสมัครใจเชื่อฟัง เจ้าก็จะได้เก็บกินผลแห่งแผ่นดินอย่างบริบูรณ์”
4)คำร้องทูลของเราพระเจ้าจะทรงฟังเมื่อเราเอาขยะทิ้งไปแล้ว ดู บทเพลงสรรเสริญ 4;3-4
“จงรู้เถิดว่าพระยะโฮวาได้ทรงเลือกคนธรรมไว้เป็นของพระองค์แล้วพระยะโฮวาจงทรงสดับฟัง เมื่อข้าพเจ้าอธิษฐานทูลพระองค์ จงเกรงกลัวและอย่ากระทำผิด ท่านทั้งหลายจงรำพึงในใจเวลาอยู่บนที่นอนของตนและให้มีใจสงบเงียบ”
ขยะในตัวท่านถ้ามีต้องทิ้งวันนี้ อย่าเก็บเอาไว้ เพราะถ้ารอพระเจ้ามาพระองค์จะเผาทิ้งเสีย