ถูกหลอกอย่างซ้ำซาก
สภ26:24-27 “คนที่มีใจเกลียดชังนั้นอาจจะปลอมถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากของเขาแต่เขาย่อมสงวนอุบายล่อลวงไว้ในใจ แม้เขาจะพูดคำไพเราะอย่าเชื่อเขาเลยเพราะว่ามีสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอยู่ในใจคนนั้นถึงเจ็ดชั้น ถึงแม้ว่าเขาจะปกปิดความเกลียดชังของเขาไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมใดๆแต่คงจะถูกเผยออกมาให้เห็นจ้างต่อหน้าคนทั้งปวง คนใดที่ขุดหลุมพรางไว้ก็จะตกลงไปในนั้นเอง และคนที่กลิ้งก้อนหินขึ้นไปมันจะกลิ้งกลับมาทับตนเอง”
คำนำ ก. มีใครที่ชอบหัวข้อนี้
ข.มีใครบ้างที่ถูกหลอกแบบซ้ำๆซากๆ จนกลายเป็นความชินชะแล้ว
ค.บ่อยครั้งที่เราถูกหลอก บางทีก็เต็มใจให้หลอก
-คนตายแล้วมาหลอกไม่น่ากลัวเพราะมันเป็นไปไม่ได้ แต่คนเป็นๆมาหลอกน่าเจ็บใจ
-มีคนมากมายที่หลงเล่ห์กลอุบายเสียเงินมากมายหลายล้าน นี่อาจเป็นความโลภมากกว่าจึงได้โดนหลอก แต่ถูกหลอกโดยไม่รู้ตัวน่าเจ็บใจ อย่างพี่สาวคุณวิไลรัตน์ มีคนมีคุยด้วยแล้วยอมให้เขาขนข้าวเปลือกจนหมดยุ้งฉาง มารู้สึกตัวอีกทีมีคนมาทักว่า “ขายข้าวได้เท่าไร”พี่สาวจึงรู้สึกตัวในมือกำเงินเพียง 800 บาท ยังดีที่ได้ 800 บาท ข้าวที่เขาขนไป ประมาณ 5-6,000 บาท ขายข้าวโดยไม่รู้สึกตัว
-จากหัวข้อของคำเทศนาวันนี้ สภ26:24-27 “คนที่มีใจเกลียดชังนั้นอาจจะปลอมถ้อยคำที่ออกมาจากริมฝีปากของเขาแต่เขาย่อมสงวนอุบายล่อลวงไว้ในใจ แม้เขาจะพูดคำไพเราะอย่าเชื่อเขาเลยเพราะว่ามีสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนอยู่ในใจคนนั้นถึงเจ็ดชั้น ถึงแม้ว่าเขาจะปกปิดความเกลียดชังของเขาไว้ด้วยเล่ห์เหลี่ยมใดๆแต่คงจะถูกเผยออกมาให้เห็นจ้างต่อหน้าคนทั้งปวง คนใดที่ขุดหลุมพรางไว้ก็จะตกลงไปในนั้นเอง และคนที่กลิ้งก้อนหินขึ้นไปมันจะกลิ้งกลับมาทับตนเอง”
ให้เรามาพิจารณา ดูจากหัวข้อคำเทศนาต่อไปนี้
1.การหลอกลวงเป็นการชั่วแบบโลกเขาทำ
ดูจากข่าวเตือนใจคนแก่
-มีคนสูงอายุที่ไว้ใจคนที่เข้ามาคุยด้วยดูน่าไว้ใจท่าทางเหมือนนายธนาคารมาชักชวนและพูดคุยให้หลงเชื่อมาต้มตุ๋นหลอกให้ถอนเงินในธนาคารไปได้หลายแสน เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ
-อย่างที่โบสถ์เราก็มีคนมาขอความช่วยเหลือทั้งที่สงสัยว่าจะโดนหลอก ก็ยังใจดีให้ความช่วยเหลือไปไม่ต่ำกว่า 2-300 บ. เพราะความใจดีและสงสาร
2.คนที่หลอกและโกงแบบพระคัมภีร์ก็มีเป็นตัวอย่าง
1)ยาโคบหลอกพี่เอซาวและพ่อยาโคบ
ไม่แปลกที่คนแก่ชราตามืดมัวอย่างยิศฮาค เยเนซิส 27:1-40 นางริบะคาได้ให้ยาโคบหลอกเอาพรจากยิศฮาคที่พระเจ้าจะทรงประทานให้ ทั้งที่ใจของยิศฮาคก็ยังสงสัยว่าจะไม่ใช่เอซาว ยาโคบหลอกให้ยิศฮาคอวยพระมากมาย แทนที่สิทธินี้จะเป็นของเอซาวพี่
คนโต เป็นสิทธิของบุตรหัวปีควรได้แต่เอซาวได้ดูถูกสิทธิมรดกบุตรหัวปีไปแล้วใน เยเนซิส 25:29-32 ซึ่งที่จริงยาโคบก็ได้หลอกเอาสิทธิไปเหมือนกัน ยิศฮาคเองก็สงสัยว่าทำไมเสียงเหมือนยาโคบ แต่กลิ่นเหมือนเอซาว และถามว่าทำไมจึงได้เนื้อมาเร็วนัก แต่คำพูดของยาโคบน่าฟัง ในข้อ 20 ตอบว่า “เพราะเหตุพระยะโฮวาพระเจ้าของท่านโปรดให้” ยาโคบพูดดีเหมือนใคร
ก็เหมือนกับอับราฮาม ตอนเป็นเด็กอับราฮามได้สอนวิชาความรู้กับยาโคบ จำได้ไหมตอนที่อับราฮามพายิศฮาคไปถวายบนแท่นบูชานั้น เยเนซิศ 22:7-8 ยิศฮาคถามอับราฮามว่า “นี่และฟืนไฟห็มีอยู่แล้วแต่ลูกกะสำหรับเผาบูชานั้นอยู่ที่ไหนเล่า อับราฮามตอบว่า ลูกเอ๋ยพระเจ้าจะหาลูกแกะให้เป็นเครื่องบูชาเผาถวายพระองค์เอง”
ให้เราสังเกตุว่าคนที่โดนหลอกก็เพราะคำพูดของคนที่เข้ามาใช้วาทศิลป์ ที่ฝึกฝนมาอย่างดี ฝึกการเข้ากับคนและดูคนที่จะหลอกว่าซื่อขนาดไหน ซึ่งก็อาจจะจริงบางทีคนเราก็ซื่อจนเซ่อไปก็มี ใจคนเชื่อไม่ค่อยได้ต้องระวัง สุภาษิต 27:19 “เมื่อมองดูในน้ำก็เห็นภาพหน้าของตนฉันใด เมื่อมองดูใจคนก็เห็นภาพแห่งใจคนฉันนั้น”
2)ซาตานในคราบของงูมาหลอกอาดามและฮาวา เยเนซิศ บทที่ 3
-มารนั้นเก่ง หลอกเราได้ ไม่จำเป็นต้องมาในคราบของงู มาหลอกคนของพระเจ้าที่ใสซื่อบริสุทธิ์อย่างอาดามและฮาวาได้ มารมันเก่ง แต่คนหน้าตาดีๆ ก็หลอกเก่งเหมือนกัน ชายหนุ่ม หญิงสาวหน้าตาดี แต่หาคนจริงใจยากมาก บางทีคนหน้าตาดุร้ายแต่ใจดี
-คนมาขายของก็ต้องแต่กายสุภาพเรียบร้อยน่าไว้ใจ ทำอย่างไรจะได้เงินจากลูกค้า
3.ควรระวังว่าท่านจะทำให้คนอื่นหลงผิด
1)คนอื่นทำให้เราหลงผิด
บางเรื่องก็เกิดขึ้นกับเราได้ในฝ่ายวิญญาณจิต เราอาจจะถูกหลอกเพราะข้อเสนอที่มองดูว่าดีเกินกว่าที่พระเจ้าสัญญา พระเจ้าสัญญาให้ดีกว่า แต่บางคนอาจมองว่าซาตานเสนอมาดีกว่า
โกโลซาย 2:8 จงระวังให้ดีเกรงว่าจะมีผู้หนึ่งผู้ใดนำท่านทั้งหลายให้หลงด้วยหลักปรัชญาและ
ด้วยคำล่อลวงเหลวไหล ตามเรื่องซึ่งมนุษย์สอนกันต่อๆมานั้นตามโลกธรรมและไม่ใช่ตามพระ
คริสต์” แล้วก็มีคนหลงไปตามคำของซาตาน หายหน้าไปนานๆก็กลับมาที แล้วก็หลงไป
เพราะยอมให้ซาตานหลอกลวงไปอย่างซ้ำๆชากๆ ไม่เบื่อบ้างหรืออย่างไร?
-คนใช้คำพูดที่ชาญฉลาด เราเป็นคนซื่ออาจถูก ลวงให้หลงผิดไป ดูโรม 16:18-19 “จงเมินหน้าจากคนเหล่านั้นเพราะว่าคนอย่างนั้นหาได้ปฏิบัติพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราไม่ แต่ได้ปรนนิบัติท้องของตัวเอง และได้ล่อลวงคนซื่อให้หลงด้วยคำดีคำอ่อนหวานของตน การซึ่งท่านทั้งหลายได้เชื่อฟังก็เลื่องลือไปถึงหูคนทั้งปวงแล้ว เหตุฉะนั้นข้าพเจ้ามีความยินดีเพราะท่านทั้งหลายแต่ข้าพเจ้าใคร่ให้ท่านทั้งหลายเป็นคนฉลาดฝ่ายการดีและให้เป็นคนโง่ผ่ายการชั่ว”
-คนที่มีความจริงใจนั้นหายาก บางทีเพื่อนเราเขามีความจริงเตือนเรา เรากลับโกรธเพื่อนก็มี คบเพื่อนมาตั้งนานไม่รู้ใจเพื่อน แต่พอได้เพื่อนใหม่ กลับไปเชื่อเพื่อนใหม่ลืมเพื่อนเก่าเสียอีก
ดูใน สุภาษิต 27 :6 “บาดแผลที่เพื่อนเขาทำแก่เรานั้นเป็นการสุจริต แต่จุบของศัตรูนั้นเป็นการหลอกลวงทั้งสิ้น”
2)อย่าเป็นเหตุ ทำให้คนอื่นหลงผิด หรือสะดุดล้มลง
-เราอาจไม่ได้ตั้งใจ แต่กลับเป็นการทำให้คนอื่นหลงไป เข้าข่ายเราหลอกลวงก็ได้
-ควรเอาความจริงใจให้ฝ่ายตรงข้าม
คำว่าเราในที่นี้ หมายถึงคริสเตียนอย่างเรา อาจทำให้คนที่เป็นคริสเตียนเก่าและใหม่สะดุดได้เหมือนกัน
คนข้างนอกอาจสะดุดและใช้คำพูดกับเราว่า “นี่หรือคริสเตียน ก็ไม่ต่างอะไรกับชาวโลก
(1)การกระทำการประพฤติของเราต้องระวัง ทำตัวดีมีคนสรรเสริญพระเจ้าของเรา
-กิริยาหงิมเสงี่ยมสุภาพ หรือว่าโวยวาย
-การรู้จักการะเทสะ การเข้ากับคน ต้องเรียนกันอีกมาก
(2)วาจา ให้คนอื่นมองว่าเราใช้คำพูดไม่ต่างอะไรกันเลยกับคนไม่เป็นคริสเตียน
คำภาษิตไทยบอกว่า สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล
(3)การกินการดื่ม
-กินของไหว้รูปเคารพ
-กินและดื่มของต้องห้าม เราเป็นคริสเตียนต้องรู้ว่าอะไรที่ห้ามกิน อะไรห้ามดื่ม เลือดกินไม่ได้ สิ่งเสพติดมึนเมา
(4)ความเชื่อ มีความเชื่อในพระเจ้ามากหรือน้อย ทั้งปี มาโบสถ์กี่ครั้ง เดือนละครั้ง หรือปีละครั้ง เขาก็คงว่า เชื่อพระเจ้ายังไง ไม่ไปโบสถ์ นิกายบางคนเขามีความเชื่อดีมาก แต่บางคนมาโบสถ์เพื่อล้างบาปปีละครั้ง คือวันคริสตมาส
วันอาทิตย์ต้องมาโบสถ์ไม่ใช่อยู่บ้านหรือมีนัดกับคนชาวโลกวันอาทิตย์
ต้องให้เขารู้ว่า จะมาหาเราวันอาทิตย์ต้องมาที่โบสถ์ถึงจะเจอ ไม่ใช่นัดคนมาวันอาทิตย์ที่บ้านหรือไปทำงานวันอาทิตย์
3)อย่าให้คนอื่นว่าเราเป็นคนหลอกลวง
-ต้องรักษาสัญญา การไม่รักษาสัญญา เราก็ไม่ต่างกับคนชาวโลกเลย
สรุป
การล่อลวงของมาร เป็นการทำให้คนอื่นหลงผิด เราเป็นคริสเตียนไม่ควรหลอกลวงใคร
หากเราเป็นคนจิตใจไม่ดี ให้พระเจ้าทรงเปลี่ยนจิตใจของเรา บสส 51:10 “ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงเนรมิตใจสะอาดให้แก่ข้าพเจ้าและขอทรงชุบย้อมน้ำใจภายในของข้าพเจ้าให้เป็นของใหม่”
เราควรมีความจริงใจต่อคนอื่นไม่มีเล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงใคร คำพูดที่บางทีพูดตรงอาจทำให้เขาเจ็บช้ำ แต่ถ้าเรามีความจริงใจพูดตรงแล้วเขาไม่เข้าใจก็ตามใจเขา ขอให้เรามีความจริงใจและพูดตรงเขาจะเชื่อเราเอง
การพูดเล่นๆ ก็เป็นเหมือนการพูดหลอกลวงเหมือนกัน คริสเตียนต้องระวังการหลอกลวงและอย่าทำให้คนอื่นหลงผิดไปด้วย