ท่านจะเติมอะไรลงไปในใจ
บทเพลงสรรเสริญ 119: 11
“พระดำรัสของพระองค์นั้นข้าพเจ้าได้จดจำไว้ในใจ เพื่อข้าพเจ้าจะไม่กระทำผิดต่อพระองค์”
คำนำ ก.โทรศัพท์ สมัยนี้ยังนี้บัตรเติมเงิน
-บางคนใจดีเติมเงินให้ก็มี
บางโปรโมชั่นมีใจดีแจกเงิน เติมให้ใช้ฟรี ที่จริงของฟรีไม่มี เขาคิดเงินเราแล้ว
ข.เพลงบางเพลงบ่งบอกอารมณ์ก็มี
-อย่างเพลงเด็ก เต็มและล้นอยู่ จิตใจของข้าเต็มและล้นอยู่
-เวลาเราร้องเพลง บางเพลงของชาวโลกก็ต้องเลือกในการร้องด้วย
ค.คนชอบเติมของกินให้มากๆ บางทีมากจนเหลือ ใส่ให้ล้นไว้ก่อน กินหมด
หรือไม่หมดค่อยว่ากันทีหลัง ตามมารยาทผู้ดี เขาจะกินทีละน้อยๆ แล้วเติมทีหลัง
-ของที่ล้นออกไป มักจะเสีย เพราะมันล้นออกไป
- แต่ถ้าล้นเพื่อไปสู่คนอื่น จะเป็นพระพร คือล้นออกจากใจที่สะอาดสะอ้าน
พระเจ้าต้องการให้พระคำของพระเจ้าไปสู่ผู้อื่นเราควรเติมอะไรลงไปในชีวิตของเราบ้าง?
1.จะไม่เติมความบาปลงไปในใจ
-ใจของเราที่เกิดมาใหม่ๆ พระเจ้าสร้างมาสะอาดหมดจด บริสุทธิ์ แต่เมื่อเกิดมาแล้ว คนเลี้ยง หรือคนที่อยู่รอบข้าง การอยู่อาศัย คนรอบข้าง จะสอนเราให้ซึมซับเข้าไปทีละน้อย
1)ความบาปเป็นการผิดพระบัญญัติ สิ่งที่พระเจ้าไม่ประสงค์ มีมากกว่าพระบัญญัติ 10 ประการเสียอีก มีมาก รวมทั้งของพระเยซูคริสต์ด้วย
2)คนทำเพราะความเคยชิน โกหก ขโมย หลอกลวงให้คนอื่นเข้าใจผิด
3)ความเห็นแก่ตัว อย่าให้มีในชีวิตคริสเตียน
4)สิ่งที่ออกมาจากปากแล้ว ระวังอย่าเอากลับไปใส่ใจ เช่น คำมั่นสัญญาที่ทำไม่ได้
2.สิ่งที่เราควรเติมในใจ
1)เติมความชื่นชมยินดี ฟิลิปปอย 4 : 4 “จงโสมนัสยินดีในองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกเวลา”
2)เติมพระคัมภีร์ หรือพระคำของพระเจ้า ศึกษาทุกวัน ใส่ทุกวัน
ยิระมายา 15; 16 “คำโอวาท ของพระองค์ข้าพเจ้าได้พบแล้วแลข้าพเจ้าได้กินคำนั้น และคำโอวาทของพระองค์เป็นที่ให้เกิดความอภิรมย์ยินดีในใจข้าพเจ้าเพราะข้าพเจ้าเรียกชื่อด้วยนามของพระองค์โอ้พระยะโฮวาพระเจ้าของพลโยธาทั้งหลาย”
3)เติมความเชื่อแค่เมล็ดพันธ์ผูกกาด
4)เติมสติปัญญา หัดเฉลียวฉลาด ทันคน เรียนรู้จักคนให้มากขึ้น ความรู้ทั่วไป เรียนให้สูง
เท่าที่จะสูงได้ หัดเรียน หัดทำให้ฉลาดมากขึ้น
3.หัดเติมสิ่งเหล่านี้เข้าไป
1)ความรักผู้อื่นเหมือนรักตัวเอง
2)หัดรักศัตรู มัดธาย 5: 44 “ฝ่ายเราบอกท่านว่า จงรักศัตรูและอวยพรแก่ผู้ที่แช่งด่าท่านจง ทำคุณแก่ผู้ที่เกลียดชังท่าน และจงขอพรให้แก่ผู้ที่ประทุษร้ายเคี่ยวเข็ญท่าน”
3)หัดรักเพื่อนบ้าน ลูกา10:25-37 ชาวซะมาเรีย เขามีใจช่วยเหลือ มีใจเมตตาปราณีทั้งที่ไม่รู้จักกันเลย
- บางทีเพื่อนบ้านที่ติดกันกับบ้านเรา กลับเป็นศัตรูกับเราก็มี
4)เติมผลของพระวิญญาณเข้าไปในใจเรา ฆะลาเตีย 5: 25 “ถ้าเรามีชีวิตอยู่โดยพระวิญญาณก็ให้เราดำเนินตามพระวิญญาณด้วย
ดูผลของพระวิญญาณ ข้อที่ 22 ข้างบน “ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้นคือความรัก ความยินดี สันติสุขความอดกลั้นไว้นาน ความปราณี ความดี ความสัตย์ซื่อ ความอ่อนสุภาพ การรู้จักบังคบตน การเช่นนั้นไม่มีพระบัญญัติห้ามเลย”
5)หัดยกโทษเข้าไว้ มัดธาย 18:21-22
-คนเราอาจทำผิดซ้ำซาก เราก็ต้องหัดยกโทษแก่เขา แม้เขาจะทำผิดแล้ว ผิดเล่า
เหมือนพระเจ้า ยกโทษให้เรา ความโกรธแค้นทำให้เรามีใจขุ่นมัว กินไม่ได้นอน
ไม่หลับ เหมือนกษัตริย์ซาอูล แค้นเคืองดาวิดเด็กเลี้ยงแกะที่เก่งกว่าตัวฆ่าฆาละยัธคนตัวใหญ่ได้
4.เรียนรู้วิธีการเติมในจิตใจ
1)อธิษฐานเผื่อตัวเอง
-คุยกับพระเจ้า ถ้าเรามีใจยะโส
-บอกพระเจ้าให้เพิ่มพละกำลังก่อน
2)มีความพยายาม ให้มากขึ้น
-ฝึกทำใจ หัดคิดใคร่ครวญ พระเยซูทำไมทำได้วันที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ พระองค์รู้ว่าต้องถูกมอบ พระองค์ยังทำได้ โดยการไปอธิษฐานที่สวนเกษเซมะเน กับอัครสาวกทั้ง 3 และบนไม้กางเขน พระองค์ทำได้คือยกโทษให้พวกเขา เขาไม่รู้
-เราต้องรู้ว่าควรทำอย่างไร จะให้ใจสะอาดบริสุทธิ์
3)พระเจ้าเจ้าจะช่วยเติมพรให้กับเราไม่รู้หมดสิ้นในทุกวัน เราไม่มีความว่างเปล่า ถ้าใจเรา
เต็มไปด้วยความรักพระเจ้า จงขอจากพระเจ้าแล้วพระองค์จะเติมในสิ่งที่ท่านขาด
สรุป -แต่เดิมใจเราว่างเปล่า เหมือนเพลงที่กล่าวว่าเราเป็นเหมือนท่อที่ว่างเปล่า เราก็ต้องเติมให้ล้น
แล้วไหลไปสู่ผู้อื่น เพื่อจะเป็นพระพรต่อผู้อื่น
-ถ้าเราไม่ปล่อยให้ไหลออกไปบ้าง มันจะอัดแน่นอยู่ในตัวเรา ไม่เป็นพร
-ถ้าทำให้ใจของเรามีแต่สิ่งดีๆไม่ได้ ใจเราก็จะแห้งแล้ง เหมือนขาดอะไรไป
-คนที่รู้จักเอาของดีใส่ไปในใจ จะทำให้ร่างกายสมบูรณ์ คนที่กินอย่างเดียว ไม่รู้แบ่งคนอื่น
ก็จะอ้วนออกข้าง มีแต่โรคสารพัตร ต้องรู้จักขับถ่ายให้เป็นระบบสมบูรณ์ คนอ้วนแต่ขึ้นโรค คนผอมแต่ขี้โรค ก็ไม่ต่างอะไรกันเท่าไรเลย
ดังนั้น เราจึงควรที่จะรู้ว่า จะเอาอะไรใส่ในใจ จึงจะสมบูรณ์ ปรึกษาหมออย่างพระเจ้า
พระองค์มีทางรักษา